วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาชญากรรมและอาชญากรคอมพิวเตอร์




     

       อาชญากรคอมพิเตอร์ คือ ผู้กระทำผิดกฎหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการก่ออาชญากรรมและกระทำความผิดนั้น สามารถจำแนกได้ดังนี้
       1. การขโมยข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต
       2. การที่อาชญากรนำเอาระบบการสื่อสารมาปิดความผิด
        3. การละเมิดสิทธิปลอมแปลง
        4. การใช้คอมพิวเตอร์แพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
5. การใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
         6. การที่มีอันธพาลเข้าไปก่อกวนทำลายระบบสาธารณูปโภค
        7. การหลอกลวงให้ร่วมลงทุนปลอม
        8. การแทรกแซงข้อมูลและนำข้อมูลมาใช้โดยมิชอบ
        9. การใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงิน
        วิธีป้องกันการเข้าถึงข้อมูลและคอมพิวเตอร์
        1. ใช้ชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน
        2. ใช้วัตถุเพื่อการเข้าสู่ระบบ
        3. ใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ
        4. ระบบเรียกกลับ\

     

กฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ



       1. กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัวจากการนำเข้าข้อมฟุลของบุคคลไปใช้ในทางมิชอบ
       2. กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ เพื่อคุ้มครองสังคมจากความผิดที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารอันถือเป็นทรัพย์ที่ไม่มีรูปร่าง
       3. กฎหมายการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อคุ้มครองการทำธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ต
       4. กฎหมายการสับเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อที่จะเอื้อให้มีการทำนิติกรรมสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
       5. กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ดรณีมนอันที่จะต้องพึ่งพาเทคโนโลยี
       6. กฎหมายโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างหลักประกันที่มั่นคง
       7. กฎหมายการโทรคมนาคม เพื่อวางกลไกในการเปิดเสรีให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ทั้งสร้างหลักประกันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมได้อย่างทั่วถึง
       8. กฎหมายระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศทีาเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
       9. กฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับอินเตอร์เน็ต
       10. กฎหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์

ความหมายของจริยธรม

     


       จริยธรรม หมายถึง หลักของความถูกและความผิดที่บุคคลใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
       กรอบคามคิดเรื่องจริยธรรม
       1. ความเป็นส่วนตัว คือ สิทธิที่จะอยู่ตามลำพังและเป็นสิทธิจ้าของสามารถที่จะคบคุมข้อมูลของต้นเองในการเปิดเผยให้กับผู้อื่น
       2. ความถูกต้อง คือ คามน่าเชื่อถือได้ของข้อมูล ทั้งนี้ข้มูลจะมีคามน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับคามถูกต้องในการบันทึกข้อมูลด้วย
       3. ทรัพย์สินทางปัญญา คือ สิทธิในการครอบครองคามเป็นเจ้าของหรือในการถือครองทรัพย์สิน
       4. การเข้าถึงข้อมูล คือ ระบบคอมพิเตอร์มักจะมีการกำหนดสิทธิตามระดับของผู้ใช้งาน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าดำเนินการต่างๆ

     

วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศ

      ผลกระทบในทางบวก
       1. ช่วยส่งเสริมความสะดวกสบายของมนุษย์ เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยทำให้มนุษย์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทำให้มนุษย์รับข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น ไม่ต้องเสี่ยงภัยกับงานที่มีอันตราย
       2. ช่วยทำให้การผลิตในอุตสาหกรรมดีขึ้น การผลิตสินค้าในปัจจุบันเป็นระบบที่ต้องการผลิตสินค้าจำนวนมาก มีคุณภาพมาตรฐาน สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
       3. ช่วยส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยให้มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพขึ้น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ ใช้ประโยชน์จากคอมพิวเตอร์ในการจำลองรูปแบบของสิ่งที่มองไม่เห็นตัว ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่มีจำนวนมากและแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก
       4. ช่วยส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ทำให้กิจการทางด้านการแพทย์เจริญก้าวหน้าขึ้นมาก
       5. ช่วยส่งเสริมสติปัญญาของมนุษย์ งานบางอย่างถ้าให้มนุษย์ทำอาจต้องเสียเวลาในการคิดคำนวณตลอดชีวิต แต่คอมพิวเตอร์สามรถทำงานเสร็จในเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นจึงมีการนำคอมพิวเตอร์มาจำลองเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อให้มนุษย์หาทางศึกษาหรือแก้ปัญหา
       6. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เทคโนโลยีช่วยส่งเสริมงานทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้กระแสเงินหมุนเวียนได้อย่างกว้างขวาง ผลิตสินค้าได้มาก ลดต้นทุน 
       7. ช่วยให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน สังคมโลกมีสภาพไร้พรมแดน
       8. ช่วยส่งเสริมประชาธิปไตย ในการเลือกตั้งมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อกระจายข่าวสาร ใช้ในการนับคะแนน แจ้งผล
       ผลกระทบในทางลบ
       1. ทำให้เกิดอาชญากรรม โจรผู้ร้ายอาจใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการวางแผนปล้น วางแผนโจรกรรม มีการลักลอบใช้ข้อมูลข่าวสาร
      2. ทำให้ความสัมพันธ์ของมนุษย์เสื่อมถอย อุปกรณ์สื่อสารทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง
       3. ทำให้เกิดความวิตกกังวล มีการนำเอาหุ่นยนต์มาใช้ในงานมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้แรงงานอาจตกงาน
       4. ทำให้เกิดการเสี่ยงภัยทางด้านธุรกิจ เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้าและบริการต่บางๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูลอันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย
       5. ทำให้มีการพัฒนาอาวุธที่มีอำนาจทำลายสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสงครามและมีการสูญเสียมากขึ้น
       6. ทำให้เกิดการแพร่วัฒนธรรมและกระจายข่าวสารที่ไม่เหมาะสมอย่างรวดเร็ว การใช้งานอินเตอร์เน็ตมีการใช้งานข่าวสารในเรื่องภาพที่ใหม่เหมาะสม การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนินการ
       7. ทำให้ข้อมูลหรือโปรแกรมถูกทำลายได้ง่าย ไวรัสคอมพิวเตอร์บางชนิดทำลายโปรแกรม บางชนิดทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง



วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลง



       แนวโน้มที่สำคัญที่เกิดจากเทคโนโลยีที่สำคัญและเป็นที่กล่าวถึงกันมาก ดังนี้
       1. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ การดำเนินธุรกิจใช้สารสนเทศอย่างกว้างขวาง เกิดคำใหม่ว่า ไซเบอร์สเปซ
       2. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้ เพราะเทคโนโลยีมีพัฒนาการที่ก้าวหน้า
       3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพการทำงานแบบทุกสถานที่ และทุกเวลา เมื่อการสื่อสารก้าวหน้าและแพร่หลายขึ้น การโต้ตอบผ่านเครือข่ายทำให้มีปฏิสัมพันธ์ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
       4.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบท้องถิ่นไปเป็นเศรษฐกิจโลก กระแสการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนสินค้าบริการอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
       5. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน หน่วยงานภายในเป็นแบบเครือข่ายมากขึ้น
       6. เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้วิธีการตัดสินใจรอบคอบมากขึ้น แต่เดิมการตัดสินปัญหาอาจมีหนทางให้เลือกได้น้อย
       7. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีทีามีบทบาททีาสำคัญในทุกวงการ ดังนั้นจึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม ศีลธรรม การศึกษาเศรษฐกิจและการเมืองอย่างมาก


การขยายตัวของเทคโนโลยีสารสนเทศ



       เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีที่มีการแพร่ขยายอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์ทุกคนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
       หากพิจารณาการใช้งานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารทั่วไปของโลก ปัจจุบันมูลค่าของสินค้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่น่าสนใจคือพัฒนาไปแล้ว 10 ประเทศ มีสัดส่วนการใช้คอมพิวเตอร์มากถึงกว่าร้อยละ 90 ของประมาณการใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก
        ผู้ผลิตสินค้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศพบว่า ประเทศผู้ผลิตเพื่อส่งออกมีเพียงไม่กี่ประเทศทั่วโลก ประเทศเหล่านี้ส่วนมากมีเทคโนโลยีของตนเอง
       ความก้าวหน้าของคอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสาร ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ มีขนาดเล็กลงแต่มีความสามารถเพิ่มขึ้น และมีราคาถูกจนผู้ที่สนใจสามารถซื้อมาเองได้ แทบกล่าวได้ว่าบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
        ปัจจุบันคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารได้สร้างประโยชน์อย่างมากต่อวงกาธุรกิจ มีการลงทุนขยายขอบเขตการให้บริการโดยใช้ระบบสารสนเทศกันมากขึ้น นอกจากนี้ การเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทำให้สังคมโลกเป็นสังคมแบบไร้พรมแดน

ประเภทของระบบสารสนเทศ

 


       ระบบสารสนเทศสามรถจัดแบ่งประเภทได้หลายวิธี ถึงประเภทของระบบสารสนเทศที่สำคัญ 3 ประเภท ดังนี้
       1. ระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัตงานหรือผู้บริหารระดับต่าง
       2. การจำแนกตามหน้าที่ขององค์การ
       3. การจำแนกตามการให้การสนับสนุนของระบบสารสนเทศ
       ระบบสารสนเทศที่สนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานหรือผู้บริหารระดับต่างๆ แบ่งประเภทของสารสนเทศไว้ดังนี้
       1. ระบบสารสนเทศประมวลผลรายการ เป็นระบบสารสนเทศที่เกี่ยวกับการบันทึกและประมวลผลข้อมูลที่เกิดจากธุรกรรม
       2. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เป็นระบบสารสนเทศสำหรับผู้ปฏิบัติงานระดับกลาง วางแผน การบริการจัดการ และการควบคุม
       3. ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ เป็นระบบที่ช่วยบริหารในการตัดสินใจสำหรับปัญหา สามารถเสนอทางเลือกให้ผู้บริหารพิจารณา